วันเสาร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2564

คุยประกันกับ OneNut ตอน "รอยโรค กลไกการเกิดโรค อาการแสดงของโรค จะรู้ได้อย่างไร"


เรามาทำความรู้จัก พระเอกของเราก่อนค่ะ นั่นคือ "พยาธิแพทย์ (Pathologist)" 





 พยาธิแพทย์ (Pathologist) มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นหมอที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับหนอนพยาธิ (อ่านว่า พะ-ยาด) แต่รู้หรือไม่ว่า คำว่า พยาธิ (อ่านว่า พะ-ยา-ทิ)  ซึ่งเขียนเหมือนกันแต่ แปลว่า โรค หรือความเจ็บไข้ 



ดังนั้นคำว่าพยาธิวิทยา จึงเป็น ศาสตร์ที่เกี่ยวกับโรค ซึ่งครอบคลุมถึงสาเหตุ กลไกการเกิดโรค การเปลี่ยนแปลงสภาพของเนื้อเยื่อบริเวณรอยโรค และอาการแสดงของโรค   พยาธิแพทย์ คือ แพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่งที่ทำหน้าที่ในการตรวจและวินิจฉัยโรคจากอวัยวะเนื้อเยื่อ เซลล์ และสารคัดหลั่งจากร่างกายมนุษย์






 การวินิจฉัยโรคจึงเป็นงานหลักของพยาธิแพทย์ ไม่ใช่การรักษาผู้ป่วยโดยตรง



 การทำหน้าที่วินิจฉัยโรคของพยาธิแพทย์ ทำให้รูปแบบการทำงานคล้ายกับการเป็นทีม support แพทย์สาขาอื่น ๆ ที่เป็นเจ้าของไข้ โดยจะคอยให้ข้อมูล และวินิจฉัยว่า ความผิดปกติของเซลล์หรือเนื้อเยื่อนั้น ๆ เป็นรอยโรคชนิดใด และควรมีแนวทางการรักษาอย่างไร หรือจะพูดให้ชัด ๆ ได้ว่าลูกค้าของพยาธิแพทย์เป็นแพทย์ด้วยกันนั่นเอง



พยาธิแพทย์แบ่งหลัก ๆ ได้เป็น 2 สาขา คือ







  • พยาธิแพทย์คลินิก  คือ แพทย์ที่ทำหน้าที่เป็นผู้แปลผลค่าในผลแล็บโดยทั่วไป เช่น ค่าน้ำตาลในเลือด ค่าสารบ่งชี้มะเร็ง นอกจากนี้ ยังทำหน้าที่ควบคุมการทำงาน และคุณภาพในการบริการของห้องแล็บ พยาธิแพทย์สายงานนี้ จะไม่จำเป็นต้องใช้ทักษะการวินิจฉัย เช่น การวินิจฉัยโรคด้วยการดูชิ้นเนื้อหรือดูเซลล์แบบพยาธิแพทย์สาขากายวิภาค



  • พยาธิแพทย์กายวิภา เป็นที่นิยมมากกว่าสาขาคลินิก มีบทบาทในการวินิจฉัยโรคจากเซลล์และเนื้อเยื่อ โดยดูการเปลี่ยนแปลงหรือความผิดปกติของเซลล์และเนื้อเยื่อ จากแผ่นสไลด์ที่ตัดออกมาจากชิ้นเนื้อ ผ่านทางกล้องจุลทรรศน์  ซึ่งงานของพยาธิวิทยากายวิภาคนี้แบ่งออกได้หลักๆเป็น 2 ประเภท คือ 


 1.ศัลยพยาธิวิทยา "บริการวินิจฉัยโดยการตรวจดูความผิดปกติของชิ้นเนื้อ"


ส่วนงานอีกประเภท คื 


2.เซลล์พยาธิวิทยา "บริการตรวจวินิจฉัยด้วยการดูการเปลี่ยนแปลงหรือความผิดปกติของเซลล์ จากสารคัดหลั่ง เช่น เสมหะ น้ำในช่องปอด หรือจากสิ่งที่ได้มาจากการเจาะหรือดูดเซลล์จากก้อนจากอวัยวะต่าง ๆ"



       ในการตรวจสอบเนื้อเยื่อของพยาธิกายวิภาคนั้น โดยปกติจะเป็นการบริการในรูปแบบการวินิจฉัยที่รอผลได้ โดยจะใช้เวลารอผลประมาณ 4-5 วัน   


แต่ในบางกรณีที่ต้องการทราบผลภายในเวลาอันรวดเร็ว ก็จะมีบริการตรวจวินิจฉัยอีกอย่างหนึ่งที่เรียกว่า บริการตรวจเนื้อเยื่อแช่แข็ง (ขั้นตอนทางลัดในการแช่แข็งด้วยความเย็น โดยไม่ต้องผ่านกรรมวิธีแช่แข็งเนื้อด้วยสารพาราฟินตามปกติที่ต้องรอข้ามวัน) ซึ่งต้องการรู้ผลวินิจฉัยในทันที เพื่อนำไปรักษาคนไข้ 


ตัวอย่างเช่น กรณีที่ศัลยแพทย์กำลังผ่าตัดคนไข้แล้วต้องการทราบผลว่าชิ้นเนื้อชิ้นนั้นเป็นมะเร็งหรือไม่ เพื่อนำไปตัดสินใจเลือกการผ่าตัดรักษาที่เหมาะสมต่อไป 



ดังนั้น ราจึงเห็นว่าการทำงานของ "พยาธิแพทย์" มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในแปลผล อ่านค่า หรือการวินิจฉัยโรค ที่เกิดขึ้นกับอวัยวะเนื้อเยื่อ เซลล์ และสารคัดหลั่งจากร่างกายมนุษย์ จึงคาดว่าหากทราบผลการเปลี่ยนแปลงเร็ว โอกาสการรักษาก็มีมากขึ้น



ซึ่งหลายท่านที่รักการปกป้อง นอกจากการดูแลเรื่องอาหารให้ครบถ้วนตามหลักโภชนาการ หรือ การออกกำลังกายเป็นประจำแล้ว จึงเลือก 👇



"การตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อตรวจสอบการทำงานของระบบภายในร่างกาย เพื่อเป็นการประเมินสมรรถภาพไปพร้อมกับการดูแลรักษาสุขภาพ ไปพร้อมกัน"






"เพราะการติดตามผลการตรวจสุขภาพ ค่าตัวเลขเหล่านี้ ล้วนสะท้อนพฤติกรรมและเป็นเหมือนการทำนายโอกาสเกิดโรคในเบื้องต้นได้"




รอยโรค  กลไกการเกิดโรค  อาการแสดงของโรค บางอย่างเกิดขึ้นจากพฤติกรรมที่สะสมเป็นเวลานาน ดังนั้น นอกจากการดูแลตนเองที่ดีแล้ว การสร้างความคุ้มครองถ่ายโอนความเสี่ยงก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีค่ะ 



ที่สำคัญคือ ทำตอนที่ร่างกายยังแข็งแรงสุขภาพดี ไม่มีโรคที่เกิดขึ้นก่อนทำประกัน ก็จะทำให้เราอุ่นใจได้มากขึ้นเมื่อได้รับความคุ้มครองพิจารณารับประกัน 



การเข้าถึงข้อมูลหลักเกณฑ์และเงื่อนไข จะทำให้การทำประกันเป็นเรื่องง่ายขึ้น 


"สร้างความคุ้มครอง อย่างเข้าใจ สร้างความมั่นใจ ในการปกป้องครอบครัว"


ด้วยความปรารถนาดี Onenutlifeplanner MTLP53


 "รายละเอียดการให้ความคุ้มครองระบุตามสัญญากรมธรรม์ประกันภัย สำหรับการพิจารณาเป็นไปตามนโยบายของแต่ละบริษัท" 


อ้างอิง พยาธิแพทย์ (trueplookpanya.com)

คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล (mahidol.ac.th)

ไขข้อข้องใจ... ค่าต่างๆ ในผลตรวจสุขภาพ บอกอะไรได้บ้าง (PART 1) | โรงพยาบาลเปาโล - Paolo Hospital

ไขข้อข้องใจ... ค่าต่างๆ ในผลตรวจสุขภาพ บอกอะไรได้บ้าง (PART 2) | โรงพยาบาลเปาโล - Paolo Hospital

วันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2564

คุยประกันกับ OneNut ตอน ประกันมีไว้คุ้มครองแต่ทำไมต้องรีบทำตอนสุขภาพดี?




              ประกันมีไว้คุ้มครอง แต่ทำไมต้องรีบทำตอนสุขภาพดี..?



เคยสงสัยกันใช่มั้ยคะ ในเมื่อประกันชีวิต หรือ ประกันสุขภาพถูกออกแบบมาเพื่อคุ้มครองชีวิตและสุขภาพ แล้วทำไม ถึงต้องรีบทำ ในเวลาที่ร่างกายแข็งแรงปรกติดี





อายุมากกว่านี้..ค่อยทำก็ได้


ทำไมต้องรีบทำ..?


การสร้างความคุ้มครองประกันชีวิต พร้อมแนบสัญญาเพิ่มเติมความคุ้มครองนั้น เป็นการสร้างการปกป้อง ก่อนเกิดภัย หากเผชิญสิ่งที่กังวลขึ้นเมื่อใด ประกันและความคุ้มครองที่เราสร้างไว้ จะเข้าปกป้องดูแล



ดังนั้น  เราจึงจำเป็นต้องสร้างขึ้นในเวลาที่แข็งแรงสุขภาพดี ร่างกายสมบูรณ์ตามเกณฑ์  เพราะหลักเกณฑ์การพิจารณารับประกันภัย เป็นไปตามนโยบายของบริษัทเพื่อดูแลคุ้มครองปกป้องเราและครอบครัวตามที่ระบุไว้ในสัญญากรมธรรม์






1. การทำประกันสุขภาพ ผู้เอาประกันภัยต้องแจ้งข้อมูลเรื่องสุขภาพตามความเป็นจริงโดยไม่ปิดบัง หากทางบริษัทตรวจพบความจริงในภายหลัง บริษัทสามารถปฏิเสธความคุ้มครองต่างๆ ได้



2.เงื่อนไขระยะเวลาการรอคอย (Waiting Period) หรือระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง หมายถึง ช่วงระยะเวลาที่ผู้เอาประกันภัยเข้ารับการรักษาพยาบาล แต่ไม่สามารถเรียกร้องค่าสินไหมได้ เพราะอาจมีอาการเจ็บป่วยมาก่อนทำประกัน การประกันสุขภาพจึงได้กำหนดเงื่อนไขระยะเวลารอคอยขึ้น เพื่อป้องกันการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากสภาพที่เป็นมาก่อนการเอาประกันภัย การกำหนดระยะเวลารอคอยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกันภัย อาจจะมีระยะเวลารอคอยประมาณ 30-120 วัน



3. การประกันสุขภาพจะไม่คุ้มครองโรคหรือการเจ็บป่วยบางอย่าง เช่น

  • - การเป็นโรคทางพันธุกรรม
  • - โรคที่เกี่ยวกับผิวพรรณ เช่น สิว ฝ้า รังแค ผมร่วง
  • - โรคตาที่เกิดจากการใช้คอนแทคเลนส์
  • - การรักษาหรือการบำบัดกรณีติดยาเสพติด บุหรี่ และเหล้า
  • - การรักษาโดยไม่ใช้แพทย์แผนปัจจุบันหรือเป็นแพทย์ทางเลือก
  • - โรคที่เคยเป็นต่อเนื่องมาก่อนการทำประกันภัย




 4.การประกันสุขภาพโดยทั่วไป จะไม่คุ้มครองการเข้าพักรักษาตัวซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นจากการบาดเจ็บหรือป่วยไข้ เช่น การทำหมัน การทำศัลยกรรม การลดความอ้วน การพักผ่อน รวมทั้งการรักษาโรคประสาท กามโรค การติด และการตรวจสายตา เช่นกัน




 5.การบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัย กำหนดสิทธิให้ผู้เอาประกันภัยบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยได้ แต่บริษัทประกันภัยจะใช้สิทธิในการบอกเลิกได้เฉพาะกรณีที่ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่าผู้เอาประกันภัยทุจริตเท่านั้น







1.อายุ

ค่าเบี้ยประกันขึ้นอยู่กับอายุของผู้ทำประกัน ซึ่งช่วงอายุที่ค่าเบี้ยประกันถูกสุด ได้แก่ อายุ ที่อยู่ระหว่าง 20-40 ปี หรือคนวัยทำงาน เนื่องจากเป็นช่วงวัยที่ร่างกายแข็งแรงมากที่สุด ส่วนช่วงอายุที่ค่าเบี้ยประกันค่อนข้างสูงได้แก่ ช่วงวัยเด็กแรกเกิดจนถึง 6 ปี และช่วงวัยสูงอายุ 50-60 ปี


2.เพศ

อัตราเบี้ยประกันภัยเพศหญิงจะสูงกว่าเพศชาย เนื่องจากความแข็งแรงของสุขภาพร่างกายที่แตกต่างกัน โดยเพศหญิงจะใช้เวลาในการฟื้นตัวจากการเจ็บป่วย หรือการบาดเจ็บทางร่ายกายนานกว่าเพศชาย


3.สุขภาพ

 

ประวัติเกี่ยวกับสุขภาพและการรักษาพยาบาล รวมทั้งสภาพร่ายกายของผู้ขอเอาประกันภัยเป็นปัจจัยหนึ่งในการกำหนดอัตราเบี้ยประกันภัย ทั้งนี้บุคคลที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ไม่เคยมีประวัติการเจ็บป่วยรุนแรง เบี้ยประกันภัยย่อมถูกกว่าบุคคลที่มีสภาพร่างกายอ่อนแอหรือเคยมีประวัติการเจ็บป่วยร้ายแรง เนื่องจากบุคคลที่มีสุขภาพแข็งแรงย่อมมีความเสี่ยงน้อยกว่าในการที่จะได้รับบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยร้ายแรงในอนาคต


4.อาชีพ

 

อาชีพเป็นปัจจัยหนึ่งที่บ่งบอกถึงกิจกรรมที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคลว่ามีความเสี่ยงมากน้อยเพียงใด อาชีพที่มีความเสี่ยงภัยหรือมีแนวโน้มที่จะได้รับบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยสูง เช่น อาชีพวิศวกรคุมงานก่อสร้าง หรือช่างทำงานในโรงงาน เบี้ยประกันภัยย่อมสูงกว่าอาชีพพนักงานบริษัททั่วไปที่ไม่มีความเสี่ยง


5.การดำเนินชีวิต

 

การใช้ชีวิตหรือ Life Style ของแต่ละบุคคล แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมซึ่งจะมีผลต่อสุขภาพ หรืออุบัติเหตุของบุคคลที่แตกต่างกันไป เช่น คนที่กินเหล้า สูบบุหรี่ หรือเล่นกีฬาที่เสี่ยงอันตราย ย่อมมีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไป ดังนั้นอัตราเบี้ยประกันจึงสูงกว่า เป็นต้น


6.สำหรับการประกันภัยหมู่

 

อัตราเบี้ยประกันภัยพิจารณาจากจำนวนบุคคลที่จะเอาประกันภัย ถ้าจำนวนบุคคลมาก การกระจายความเสี่ยงย่อมมีมากกว่า ซึ่งจะทำให้อัตราเบี้ยประกันภัยต่ำลงได้



การเข้าถึงข้อมูลหลักเกณฑ์และเงื่อนไข จะทำให้การทำประกันเป็นเรื่องง่ายขึ้น 


"สร้างความคุ้มครอง อย่างเข้าใจ สร้างความมั่นใจ ในการปกป้องครอบครัว"


ด้วยความปรารถนาดี Onenutlifeplanner MTLP53


 "รายละเอียดการให้ความคุ้มครองระบุตามสัญญากรมธรรม์ประกันภัย สำหรับการพิจารณาเป็นไปตามนโยบายของแต่ละบริษัท" 



อ้างอิง สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย | การประกันสุขภาพ (oic.or.th)

วันอังคารที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2564

คุยประกันกับ OneNut ตอน "เงินสมทบกรณีชราภาพ"





😊 18 ปีแห่งความหลัง 😊


ขึ้นประโยคนี้ อินโทรเพลงก็มา 😆😆😆
18 ปี แห่งชีวิตการทำงานรับเงินเดือนและรับสวัสดิการประกันสังคมของ OneNut ค่ะ



วันนี้ จึงขอพูดถึงสิทธิ์ประโยชน์ดีๆ ที่ได้จากเงินสมทบชราภาพค่ะ
เงินก้อนนี้ได้มาอย่างไร สะสมด้วยวิธีการใด เพื่อสิ่งใด 



👇เราไปค้นหาข้อมูลกันค่ะ👇 



เงื่อนไขการเกิดสิทธิประโยชน์ประกันสังคม "กรณีชราภาพ" 





เป็นอย่างไรกันบ้างคะ หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการรับเงินชราภาพ ระยะเวลาการสะสม มีรายละเอียดพอสมควรเลยใช่มั้ยคะ 



"การสะสมเงินไว้ใช้ในช่วงวัยชรา เป็นสิ่งที่น่าตระหนักและควรให้ความสำคัญ 

ยอดเงิน 6x,xxx นี้ จะได้รับในวัย 55 ปี น่าชื่นใจ ของขวัญวัยเกษียณ"



ยิ่งมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เงินสหกรณ์ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ RMF

ที่เก็บสะสมมาพร้อมกันด้วยนั้น จำนวนเงินที่รับพร้อมๆกัน ยิ่งชื่นบานจิตใจ




ซึ่งทุกช่องทางเกิดขึ้นได้จาก "วินัยการออม"

การรับเงินสด 7 หลัก ในวัยเกษียณ คงสุขใจไม่น้อย




"20 ปี หลังเกษียณ" 

"บริหารจัดการอย่างไรดี ให้เงินก้อนนี้ ไม่หมดก่อนเวลา"



การลงทุนมีความเสี่ยง 

และทุกความเสี่ยงสามารถทำให้เกิดผลกำไร เท่าทุน หรือ ขาดทุน ได้ทุกเวลา

"การวางแผนบริหารจัดการความเสี่ยง"

จึงช่วยลดอุปสรรคได้ 



ซึ่งทางเลือกของ "การวางแผนประกันบำนาญ" ก็เป็นหนึ่งทางเลือกที่ดี ที่เราสามารถทำได้  เป็นการกระจายความเสี่ยง สร้างรายได้หลังเกษียณ แถมยังเพิ่มเติมเสริมความปลอดภัยด้วยการแนบสัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล


เพราะสิ่งสำคัญที่สุดระหว่างทาง คือ "สุขภาพกาย"  และ "สุขภาพใจ" ที่สมบูรณ์


"ยิ้มรับความสุขกับการแพลน พร้อมทำแผนให้เป็นจริง"


ด้วยความปรารถนาดี Onenutlifeplanner MTLP53


ขอบคุณเครดิตภาพประกอบ Grandmother Vectors by Vecteezyher


 "รายละเอียดการให้ความคุ้มครองระบุตามสัญญากรมธรรม์ประกันภัย สำหรับการพิจารณาเป็นไปตามนโยบายของแต่ละบริษัท" 





วันจันทร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2564

คุยประกันกับ OneNut ตอน " หากสูญเสียการได้ยิน (Loss of Hearing)"






ในชีวิตประจำวันสิ่งที่ทำให้เราสะดวกต่อการทำความเข้าใจเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการประสานงาน การติอต่อธุรกิจ หรือ การสื่อสารทั่วไป นั่นคือ การพูด การสัมผัส การมองเห็น การได้ยิน และ การตีความ 



จะเป็นอย่างไรหากวันหนึ่งต้องเผชิญปัญหาจากการได้ยิน ทำให้เราไม่สามารถจับใจความ เหตุการณ์ หรือ เรื่องราว นั้น ได้แม่นยำอย่างเคย 
"ประสิทธิภาพในการสื่อสารลดลง"


เช่น..ตัวอย่าง 👇 






เหตุการณ์ตัวอย่างด้านบน อาจทำให้การใช้ชีวิตไม่สะดวกอย่างเดิม แล้วเมื่อเป็นบ่อยครั้ง ความกังวลใจเริ่มเกิดขึ้นตามมา อาการที่เกิดขึ้น "การกระทบกับการสื่อสาร การมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง" 



"หากอาการดังกล่าวเกิดขึ้นจากโรค หรือ อุบัติเหตุ ฉับพลัน ผลกระทบที่เกิดขึ้นอาจจะมากกว่า เนื่องจากต้องมีการพบแพทย์การเข้ารักษาพยาบาล"



 และมากกว่านั้น 



 "การสูญเสียการได้ยิน" "สูญเสียความสามารถในการดำรงชีพ"
ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องความปลอดภัย การไม่ได้ยินเสียง อาจทำให้ประสบภัยรุนแรงได้






การสร้างความคุ้มครองโรคร้ายแรงรับเงินก้อนดูแลตนเองเมื่อประสบปัญหา จึงเป็นการบรรเทาภัยได้ระดับหนึ่ง ช่วยชะลอปัญหาเรื่องการเงิน ป้องกันเงินเก็บหลุดกรอบ ที่เราตั้งใจวางไว้ ซึ่งทั้งหมดป้องกันได้ ด้วย "การกระจายความเสี่ยง"



 "รายละเอียดการให้ความคุ้มครองระบุตามสัญญากรมธรรม์ประกันภัย สำหรับการพิจารณาเป็นไปตามนโยบายของแต่ละบริษัท" 




คำนิยามโรคร้ายแรง การสูญเสียการได้ยิน ( Loss of Hearing)

การสูญเสียประสิทธิภาพของการฟังของหูทั้งสองข้างโดยไม่สามารถรักษาให้กลับคืนสู่สภาพ เดิมได้ ซึ่งเป็นผลมาจากโรคหรืออุบัติเหตุ การวินิจฉัยจะต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทาง หู คอ จมูก และมีหลักฐานทางการแพทย์ยืนยัน โดยมีผลการทดสอบการได้ยิน (Audiometry) และมีค่าผลการตรวจรับเสียง (Sound threshold tests) ที่ 80 เดซิเบล หรือมากกว่าในทุกความถี่ และการสูญเสียนี้ต้องคงอยู่ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 180 วัน 



"การป้องกันความเสี่ยง"
"การสร้างความคุ้มครอง" เป็นสิ่งที่คุณสามารถทำเพื่อตนเองและคนที่รักได้ค่ะ
ด้วยความปรารถนาดี Onenutlifeplanner MTLP53



อ้างอิง

วันเสาร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2564

คุยประกันกับ OneNut ตอน "มรดกตกทอด"




มรดก..ตกทอด..😃

ขึ้นชื่อว่าได้รับ "มรดก" ก็น่าปิติยินดีนะคะ แล้วเจ้าคำว่า "มรดก" นี่ มีที่มายังไงนะ ทำไม อย่างไร ถึงจะสร้างมรดกกับเค้าได้บ้างนะ วันนี้เรามีคำตอบ จากการ "ส่งมอบมรดกด้วยทุนประกันชีวิต" มาเล่าให้ฟังค่ะ 


อย่างแรกเรามาทราบกันเบื้องต้นนะคะ ว่า..


คำว่า "มรดก" ที่ทุกคนต้องคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพราะมีข่าวการแย่งชิง ทำร้ายกันเพื่อยื้อแย่งทรัพย์สินออกมาให้ได้รับรู้กันบ่อยๆ เพราะคำว่า "มรดก" เพียงคำเดียว ซึ่งวิธีการจัดการทรัพย์มรดกและแบ่งปันทรัพย์มรดก อายุความ ฯลฯ แต่ละเรื่องมีรายละเอียดแยกย่อยออกไปได้มากมายเลยค่ะ เช่น การเขียนพินัยกรรม หรือ การขออำนาจศาลเพื่อจัดตั้งผู้จัดการมรดก รวมถึงการเสียภาษีมรดกรับให้ 



"โอ้โห เราไม่มีทรัพย์สินขนาดนั้น แล้วจะสร้างมรดกได้อย่างไรล่ะ"




บางครั้งอาจฟังดูไกลตัวนะคะ แต่เรื่องทรัพย์สินเงินทองเราทุกคนล้วนสร้างได้ค่ะ

สำหรับการสร้างความคุ้มครองชีวิต หรือ ภาษาประกันที่เรียกกันว่า ทุนประกันชีวิต 

ก็เป็นมรดกที่คุณสามารถสร้างได้ ด้วยการสร้างความคุ้มครองนั่นเองค่ะ


ข้อดี "ของการสรัางความคุ้มครอง"

จัดสรรให้ทายาทได้ โดยการระบุผู้รับผลประโยชน์

จัดสรรจำนวนเงินได้ โดยการระบุสัดส่วนการรับผลประโยชน์

เปลี่ยนแปลงผู้รับผลประโยชน์ได้ หากผู้รับผลประโยชน์ทอดทิ้งไม่มาดูแล


ความคุ้มครองที่สร้างความอบอุ่นใจในการใช้ชีวิต

ด้วยการแนบสัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล หรือคุ้มครองโรคร้ายแรง

และหากเกิดเรื่องไม่คาดคิด มีทุนประกันชีวิตส่งมอบ ให้คนข้างหลังที่เรารักและห่วงใย 


สิ่งดีๆ ที่ครบถ้วนทุกมิติ คุ้มครองรอบด้านขนาดนี้

ไม่รัก  "การทำประกันชีวิต" ได้อย่างไรล่ะคะ


"ป้องกันความเสี่ยง ปกป้องครอบครัวและตัวคุณเอง รับความคุ้มครองตามความเหมาะสมที่ต้องการกันค่ะ"



 "รายละเอียดการให้ความคุ้มครองระบุตามสัญญากรมธรรม์ประกันภัย สำหรับการพิจารณาเป็นไปตามนโยบายของแต่ละบริษัท" 

ด้วยความปรารถนาดี Onenutlifeplanner MTLP53

วันศุกร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2564

คุยประกันกับ OneNut ตอน "เงินครบกำหนดสัญญา"

 



เงินครบกำหนดสัญญา

💖ว้าว..ดีจัง..รับเงินก้อนเป็นของขวัญการเก็บออม💖

พูดถึงเรื่องเงินๆ ทองๆ บางครั้งฟังเป็นเรื่องน่ายินดี และบางทีก็เป็นเรื่องละเอียดอ่อนกับความรู้สึกนะคะ ซึ่งวันนี้ขอออกตัวไว้ก่อนว่า OneNut 
ขอเล่าเป็นมุมมองเรื่องบวกๆ ที่ฟังแล้วรู้สึกดีต่อใจค่ะ 😊


เช็คเงินสดจำนวน "หกหลัก" กับ "สถานการณ์ช่วงนี้" ใครได้รับก็คงไม่ต่างกับได้รางวัลแจ็คพอต เลยนะคะ รู้สึกได้ถึงคุณค่าทางจิตใจ เพราะมีราคา มากกว่ามูลค่าหน้าเช็คซะอีก เห็นด้วยมั้ยคะ  


"เงินครบกำหนดสัญญา"คืออะไร ได้มาอย่างไร แล้วดีกับใคร เรามาหาคำตอบกันค่ะ


"เงินครบกำหนดสัญญาที่ได้รับตามกรมธรรม์นี้คือ" 
   

ดังนั้น จึงเห็นได้ว่า ข้อดี ของการสร้างความคุ้มครองที่มีเงินครบกำหนดสัญญา ทำให้เราสามารถกำหนดทิศทางของการเงินได้ค่ะ ว่าเราต้องการให้เงินก้อนนี้ กลับมาหาเราในช่วงวันเวลาใด เพื่อวัตถุประสงค์อะไร และ ก่อนที่จะครบกำหนดเวลานั้น ให้ความคุ้มครองชีวิตอย่างไร มีเงินคืนระหว่างทาง มีผลตอบแทนหรือไม่  มีผลประโยชน์ใดให้กับเราบ้าง 


ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีคุณค่าสามารถสร้างความอบอุ่นปลอดภัยทางใจ ให้กับคุณและครอบครัวได้ค่ะ

    
การรับเงินครบกำหนดสัญญาไว คือ แพลนจัดตารางการเงินและช่วงเวลารับเงินครบกำหนดสัญญาได้ ส่วน ข้อควรระวัง ของการรับเงินครบกำหนดสัญญาไวเกินไป คือ "สัญญาแนบท้ายสร้างความคุ้มครองเพิ่มเติมก็จบตาม สิ้นสุดไวเช่นกัน"


เพราะอย่างนั้นหากต้องการซื้อสัญญาแนบท้ายเพิ่มเติม ที่สามารถสร้างความคุ้มครองให้คุณได้ยาวๆ เช่น การคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล หรือ คุ้มครองเมื่อพบเจอโรคร้ายแรง เพื่อป้องกันไว้ จึงควรเลือกแบบประกันที่ระยะเวลาครบกำหนดสัญญายาวออกไปเช่นกันค่ะ 


รายละเอียดนี้ ลงลึกถึงแบบประกันค่ะ หากสนใจสอบถามได้นะคะ ข้อมูลส่วนตัว ความชัดเจนเรื่องการสื่อสาร การแจ้งรายละเอียดที่ครบถ้วน เป็นสิ่งจำเป็นที่เราให้ความสำคัญค่ะ 



สุดท้ายนี้ ขอแสดงความยินดีเป็นอย่างยิ่งกับเจ้าของเช็คใบนี้ ที่สร้างความคุ้มครองให้ตนเองและครอบครัวเป็นอย่างดี พร้อมรับ เงินครบกำหนดสัญญา เป็นค่าขนมกรุบกริบอีกด้วย  OneNut ขอขอบคุณที่อนุญาตให้แบ่งปันข้อมูลนะคะ


💖ขอให้ท่านสุขภาพแข็งแรง ปลอดภัย ปรารถนาสิ่งใดสมหวังทุกประการค่ะ💖



 "รายละเอียดการให้ความคุ้มครองระบุตามสัญญากรมธรรม์ประกันภัย สำหรับการพิจารณาเป็นไปตามนโยบายของแต่ละบริษัท" 



ด้วยความปรารถนาดี OneNutLifeplanner MTLP53
     

วันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2564

คุยประกันกับ OneNut ตอน "สรุปกรมธรรม์ไปทำไม"


ตอน...พี่น่ารักมีคำถาม?

"ทำไมต้องสรุปกรมธรรม์"

                                           นั่นสินะ..ทำไม?

ไปหาคำตอบดีๆ..กับ OneNut กันค่ะ😊




พี่น่ารัก:     "ไปค่ะ...ไปหาคำตอบกันเลย..."





พี่น่ารัก: "ว้าววว  ดีจังค่ะ มีกรมธรรม์หลายเล่ม พี่จำไม่ได้เลย"




                        พี่น่ารัก: "โอ้โห จริงด้วยค่ะ ปัจจุบันมีโรคภัยไข้เจ็บเกิดขึ้นมากมาย ความคุ้มครองที่ทำไว้คลอบคลุมหรือยังนะ"





                         พี่น่ารัก: "สุดยอดเลย...จ้า สร้างความคุ้มครองทั้งที รู้รอบครบทุกมิติ  จัดการได้หลากหลายขนาดนี้ พี่จะพลาดได้อย่างไร"




        พี่น่ารัก:  "ได้เลยค่ะ OneNut พรุ่งนี้พี่สะดวกช่วงบ่ายนะคะ เข้า สรุปกรมธรรม์ ได้เลย งานเฉพาะทางแบบนี้ มีคนดูแลให้ น่าชื่นใจจัง"

     
    OneNut : "ยินดีบริการค่ะพี่น่ารัก ความคุ้มครองที่เหมาะสมคุ้มค่า เป็นสิ่งที่พี่ควรได้รับ"

                       

 "แล้วพบกันพรุ่งนี้นะคะ สวัสดีค่ะ 💖"


                              ............................


หมายเหตุ: การวางแผนการสร้างความคุ้มครองเป็นสิ่งที่ดี และสิ่งที่ดีกว่าคือเราสามารถเข้าถึงรายละเอียดทุกมิติของสัญญา เพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดในการพิจารณาเลือกแผนปกป้องคุ้มครองครอบครัวได้อย่างเหมาะสม รวมถึง การป้องกันช่องว่างระหว่างทาง หากพบรอยรั่ว หรือ พบอุปสรรคที่ทำให้ แผนความคุุ้มครองสร้างการปกป้องที่วางไว้สะดุดกลางคัน 


ดังนั้น: การเลือกแผนความคุ้มครอง การสร้างหลักประกันให้ครอบครัว ไม่ได้มีแค่เพียงรายละเอียดของแบบที่ให้ความคุ้มครองสูงสุดเท่านั้น การวางแผนที่ดีสามารถทำได้มากกว่านั้น


"เปรียบเสมือนการสร้างบ้าน ที่คุณสามารถจัดวางได้ตามความต้องการของตนเอง"

"ผ่านที่ปรึกษาแบบประกันที่มอบสิ่งนี้เพื่อคุณ ด้วยความปรารถนาดี"


OneNut : "ยินดีบริการค่ะ  แล้วพบกันนะคะ นัดหมายได้เลยค่ะ 💖"


 "รายละเอียดการให้ความคุ้มครองระบุตามสัญญากรมธรรม์ประกันภัย สำหรับการพิจารณาเป็นไปตามนโยบายของแต่ละบริษัท" 

ด้วยความปรารถนาดี  OneNutLifeplanner  MTLP53

บทความล่าสุด

คุยประกันกับ OneNut ตอน "รอยโรค กลไกการเกิดโรค อาการแสดงของโรค จะรู้ได้อย่างไร"

เรามาทำความรู้จัก พระเอกของเราก่อนค่ะ นั่นคือ   " พยาธิแพทย์  (Pathologist)"    พยาธิแพทย์  (Pathologist)  มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นห...